บัญชีนวัตกรรมไทย เป็นโครงการของภาครัฐที่มีวัตถุประสงค์หลักในการ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยและนักวิจัยไทย ช่วยยกระดับผลงานวิจัยของคนไทยให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม มีการรับรองด้วยมาตรฐานเทียบเคียงที่เชื่อถือได้ และเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นมาตรการการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยมีแนวคิดแบบนวัตกร ต่อยอดการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความเป็นนวัตกรรม ช่วยให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของตนได้ ซึ่งการขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทย ทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ทัดเทียมนานาประเทศได้

สารบัญ

“นวัตกรรมไทย”

หมายถึง ผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากกระบวนการวิจัยหรือการปรับปรุงกระบวนการในการผลิตของผลิตภัณฑ์หรือปรับปรุงรูปแบบการให้บริการแบบเดิมด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยที่คนไทยจะต้องมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่มีอยู่แล้วก็ได้ แต่นวัตกรรมไทยนั้นจะต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานและได้รับการรับรองโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้ อีกทั้งยังพิสูจน์ได้ว่ามีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ และบริเวณใกล้เคียง โดยนวัตกรรมไทยในที่นี้ ไม่จำเป็นต้องพัฒนาขึ้นในประเทศไทยทั้งหมด อาจมีการซื้อหรือนำเข้าบางส่วนมาจากต่างประเทศก็ได้

5 หัวใจหลักของการ ขึ้นบัญชีนวัตกรรม

1) ผู้ยื่นจะต้องมีสิทธิใช้ทรัพย์สินทางปัญญาหรือผลงานวิจัยเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์

ผู้ที่มีสิทธิในการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการ จะต้องเป็นผู้มีสิทธิใช้ทรัพย์สินทางปัญญาหรือมีสิทธิในการใช้ผลงานการวิจัยและพัฒนาที่ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์หรือบริการดังกล่าว เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์

2) โครงการจะต้องผ่านการวิจัยและพัฒนาโดยหน่วยงานไทยที่เชื่อถือได้

ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรม จะต้องเป็นผลมาจากการวิจัยหรือการพัฒนา อย่างมีนัยสำคัญโดยสถาบันวิจัยไทย สถาบันการศึกษาของไทย หรือภาคเอกชนไทย มีเอกสารแสดงรายละเอียดการวิจัยและพัฒนาอย่างชัดเจน ครบถ้วน สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ต้องการขึ้นทะเบียน

3) ผู้ยื่นขึ้นทะเบียนต้องเป็นนิติบุคคล หรือองค์กรภาครัฐ

เจ้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต้องมีสถานะเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เช่น บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน และมีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า ร้อยละ 51 หรือองค์กรภาครัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการผลิตและจำหน่าย

4) โครงการจะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานบังคับ

ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขอขึ้นทะเบียนต้องผ่านการรับรองมาตรฐานบังคับของ ผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ (ถ้ามี) และ/หรือ มาตรฐานเทียบเคียง รวมทั้งผ่านการทดสอบผลจากการวิจัยและพัฒนาจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ

5) โครงการจะต้องผ่านการทดสอบคุณภาพ

ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขอขึ้นทะเบียนต้องผ่านการทดสอบคุณภาพตามที่ระบุใน เอกสารกำกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยในการใช้งานและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากหน่วยงานวิเคราะห์ทดสอบที่เชื่อถือได้

สิทธิประโยชน์ของบัญชีนวัตกรรมไทย

ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาของ สวทช. รวมถึงสำนักงบประมาณ ตามหลักเกณฑ์ข้างต้นเรียบร้อยแล้ว จะได้รับการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย พร้อมรับสิทธิการอยู่ในระบบบัญชีผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่ภาครัฐสามารถทำการจัดซื้อจัดจ้างได้เป็นระยะเวลาสูงสุด 8 ปี

กล่าวคือ ส่วนราชการ, รัฐวิสาหกิจ, หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น, หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ สามารถจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่มีรายชื่อตามบัญชีนวัตกรรมไทย โดย วิธีเฉพาะเจาะจง (กรณีมีผู้ขายหรือผู้ให้บริการเพียงรายเดียว) และวิธีคัดเลือก (กรณีมีผู้ขายหรือผู้ให้บริการตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป) ได้

ทำไมต้องเลือกใช้บริการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมกับ ATPSERVE?

เพราะเราคือ One stop service ที่ช่วยดูแลนวัตกรรมของคุณทั้งในด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภท ได้แก่ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า และลิขสิทธิ์ เป็นต้น และในด้านการผลักดันนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์รูปแบบต่าง ๆ

สำหรับบริการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมนี้ ATPSERVE สามารถดูแลนวัตกรรมของคุณตั้งแต่การจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ไปจนถึงการจัดเตรียมเอกสารประกอบการขึ้นบัญชีนวัตกรรมกับ สวทช. เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นคู่ค้าภาครัฐ สามารถจัดซื้อจัดจ้างโดยภาครัฐในรูปแบบวิธีเฉพาะเจาะจง และวิธีคัดเลือก ได้นานสูงสุด 8 ปี

โดยบริการนี้ครอบคลุมไปถึง การจัดทำแบบคำขอขึ้นบัญชีนวัตกรรม พร้อมเอกสารประกอบ (ถ้ามี) ยื่นเข้าระบบ พร้อมติดตามสถานะ โดยมีที่ปรึกษาเป็นตัวกลางในการประสานงาน ซึ่งสามารถเลือกประชุมออนไลน์ 6 ครั้ง หรือออนไซต์ 2 ครั้ง อย่างใดอย่างหนึ่ง

ปรึกษาฟรี ขึ้นบัญชีนวัตกรรม

ติดต่อเรา
ติดต่อเรา

ขั้นตอนการให้บริการของ ATPSERVE

ขั้นตอนขึ้นทะเบียนนวัตกรรม

1. ลูกค้าชำระค่าบริการ : หลังจากที่ลูกค้าได้รับคำปรึกษาถึงแนวทางในการขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมกับทางที่ปรึกษาและบรรลุข้อตกลงในการดำเนินการ ทางที่ปรึกษาจะจัดส่งใบเสนอราคา และใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าชำระค่าบริการเต็มจำนวน ก่อนเริ่มงาน เมื่อลูกค้าชำระค่าบริการพร้อมส่งหลักฐานการชำระเรียบร้อยแล้ว ที่ปรึกษาจะจัดส่งใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ให้ลูกค้าทั้งรูปแบบออนไลน์และจัดส่งทางไปรษณีย์

2. ATPSERVE รับข้อมูล : เมื่อที่ปรึกษาได้รับหลักฐานการชำระค่าบริการเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าสามารถนัดประชุมเพื่ออธิบายข้อมูลโครงการวิจัย และ/หรือ ส่งข้อมูลโครงการวิจัยในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ที่ปรึกษาได้

3. ATPSERVE จัดทำแบบคำขอ : หลังจากได้รับข้อมูลโครงการวิจัยครบถ้วน ที่ปรึกษาจะจัดทำร่างข้อเสนอโครงการตามเอกสารแบบคำขอฯ ของทาง สวทช. และจะจัดส่งให้ลูกค้าตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของเนื้อหา ทั้งในส่วนข้อมูลสำคัญของบริษัท ข้อมูลเชิงเทคนิคของโครงการวิจัย ตลอดจนข้อมูลเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรม

4. ลูกค้าจัดส่งเอกสารประกอบเพิ่มเติม (ถ้ามี) : ทั้งนี้หากข้อมูลข้างต้นยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือไม่เพียงพอต่อการพิจารณาขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรม ที่ปรึกษาอาจมีความจำเป็นที่จะต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกค้าอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นที่ปรึกษาจะทำการเพิ่มเติมรายละเอียดในแบบคำขอฯ

5. ATPSERVE สรุปรายการเอกสารประกอบเพิ่มเติม : หากรายละเอียดของโครงการวิจัยถูกจัดเตรียมตามแบบคำขอและมีความครบถ้วนตามเกณฑ์การพิจารณาของ สวทช. ทุกข้อ ที่ปรึกษาจะจัดทำสรุปรายการเอกสารประกอบเพิ่มเติม เพื่อแนบไปพร้อมกับแบบคำขอฯ

6. ATPSERVE ยื่นแบบคำขอและเอกสารประกอบ : ที่ปรึกษาจะทำการยื่นแบบคำขอฯ พร้อมเอกสารประกอบทุกรายการไปที่ สวทช. โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาเบื้องต้นแล้ว หากข้อมูลครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ก็จะถูกนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาในลำดับต่อไป แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ยังมีข้อสงสัยในตัวโครงการวิจัย ก็อาจมีการเรียกขอเอกสารบางรายการเพิ่มเติม